Saturday, June 27, 2015

ครั้งแรกกับเครื่องแบบใหม่


ขึ้นประถมก็จะมีเครื่องแบบใหม่

ขึ้นมัธยมต้นก็จะมีเครื่องแบบใหม่

ขึ้นมัธยมปลายก็จะมีเครื่องแบบใหม่

และเช่นกัน...

เป็นสาวมหาลัยก็ต้องมีเครื่องแบบของมหาลัย

และทุกครั้งที่เรามีเครื่องแบบใหม่กัน จะต้องตื่นเต้นดีใจ ยิ่งเครื่องแบบของมหาลัยนะ ยิ่งโคตรน่าอิจฉาเวลาเห็นพี่ใส่ชุกนักศึกษาที่ติดตรามหาลัยในฝันของเรา ทำไมพี่เขาใส่แล้วสวย แล้วดูดีแบบนั้นนะ สักวันเราต้องเป็นแบบนั้นบ้าง

เราเคยคิดแบบนั้นมาตลอด จนกระทั่งได้มาลองใส่เอง

.

.

.

แม่คะ การที่หนูใส่ชุดนักศึกษาแล้วตันแบบนี้มันคืออะไรรรรร #กรี๊ดแรงมาก


ศิลปากรบังคับให้ใส่พลีทนะคะ และกับคณะเราที่บังคับให้กระโปรงยาวคลุมเข่า พิธีการคือยาวครึ่งแข้ง และใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว

แทบจะกรี๊ดเป็นภาษาต่างดาวตอนเห็นตัวเองใส่ชุดนักศึกษาครั้งแรกค่ะ หุ่นตันและเตี้ยมาก เป็นทรงตรงเลยค่ะ แงงงงงง


เราได้ใส่ชุดนักศึกษาครั้งแรกอย่างจริงจัง คือเมื่อวันที่ 21 ที่ผ่านมาค่ะ ซึ่งเราต้องไปงานสดุดีสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพที่วังวรดิศค่ะ เข้าวังครั้งแรกในชีวิต สิทธิพิเศษเฉพาะเด็กรอบรับตรง #กรี๊ดแปป

สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพคือใคร?

พระองค์เป็นพระราชโอรสในรัชการที่ 4 ถ้าใครพอจะจำได้พระองค์ได้รับยกย่องว่าเป็นพระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย และเป็นชาวไทยคนแรกที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก พระองค์ทรงพระราชกรณียกิจหลายประการที่มีผลดีต่อชาวไทย ทั้งด้านการศึกษา ด้านประวัติศาสตร์ ถ้าเราจำไม่ผิดพระองค์ทรงเป็นเสนาบดีคนแรกของกระทรวงมหาดไทย

แลดูความรู้แน่น... เปล่าค่ะ กลวงมาก นี่พึ่งที่จำได้จากที่ดูคลิปและฟังหม่อมปนัดดาจากในวันที่ 21 จริงๆ วันนั้นชีวประวัติของพระองค์ยาวมาก คลิป 20 นาที แต่จนถึงวันนี้มันก็หายไปหมดแล้ว (......)

กลับมาเรื่องชุด เออ เพราะวันนั้นต้องเข้าวัง เลยต้องเรียบร้อย กระโปรงต้องครึ่งแข้ง เราก็จัดเลยค่ะ กระโปรงยาว32 เกือบถึงข้อเท้าแหนะ (ซึ่งใส่แล้วมันเน้นช่วงขาให้เราดูตัวยาว แต่ร้อนมากค่ะ ร้อนจนอยากจะ ถกกระโปรงขึ้นแล้วไปยืนหน้าพัดลม ฮืออออ)

 นอกจากนั้นแล้ว คณะเรายังพิเศษนะ มีเนคไทสีม่วงให้ใส่ทั้งหญิงและชายด้วยนะ อย่างน่ารักอ่ะ ใส่แล้วมองไกลๆ เหมือนเด็กมัธยมพวกคอนแวนซ์เลย5555 แต่ความน่ารักนี่ลำบากมาก คือเข้าใจไหมว่ามันต้องติดกระดุมคอที่ใช้ติ้งมหาลัยติดแทนกระดุมที่ตัดไปแล้ว จากนั้นก็ใส่เนคไท แรกก็ว่าแอบมิ้งดี ไปๆ มาๆ เริ่มไม่ละ อึดอัดมาก รัดคอสุดๆ จนอยากจะร้องกรี๊ด แงงงงงง เคยอุทธรณ์กับพี่ไปแล้วว่าอึดอัด พี่บอกเดี๋ยวก็ชิน เอ่อ พี่คะ... นานไหมกว่าหนูจะชิน สงสัยจริงจัง5555 (แว่วมาว่าปีหนึ่งต้องใส่เนคไทนี่ยาวยันจบรับน้องนะ นี่คงเป้นคำตอบของพี่ว่าเมื่อไหร่เราจะชินกับมัน5555)

ถามว่านอกจากไปสดุดีสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพแล้วยังไปทำอะไรอีก ก็ได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์หรือก็คือตัววังวรดิศนั่นเองค่ะ แถมด้วยข้าวต้มฟรี ซึ่งพริกไทยแอบเยอะ กินแล้วแอบฉุนจมูกดี แต่หลายคนก็ว่ามันอร่อยนะ โอเค เราแปลกเอง (........)

ที่ไปนี่แอบได้อะไรกลับมาเยอะนะ (นอกจากรับรู้ว่าใส่ชุดนักศึกษาแล้วตัวเราจะเป็นทรงตรงแบบนั้นและกระโปรงยาวนี่ร้อนขาฉิบหาย) อย่างเช่นว่าจะมีการที่เราได้เดินดูพวกของใช้ของสมเด็จท่านที่มีไว้ในพิพิธภัณฑ์ ตรงโต๊ะทรงงานแอบเห็นปฏิทินมันเขียนเดือน พฤศจิกายน ไว้ว่า พรึกสจิกายน คือพึ่งรู้ว่าสมัยก่อนนี่เขียนเดือนพ.ย.ว่างั้น เห็นพวกกล้องโบราณที่พระองค์ท่านชอบใช้ นอกจากนั้นยังชอบอันนึงที่คือเจ้าต่างประเทศจะส่งพวกโปสการ์ดอวยพรมาให้สมเด็จ โดยจะใช้เป็นรูปตัวเองงี้ เรามองว่าแปลกดี คือไม่ชินไง ทุกวันนี้เวลาเราอวยพรวันเกิดเพื่อนรือปีใหม่งี้ ถ้าไม่ใช่รูปเพื่อนก็จะใช้รูปพวกที่แสดงให้เห็นถึง่าเปลี่ยนปีแล้วนะงี้ 

ที่สนุกสุดคือนี่... ตรงหอสมุด ชอบดัชนีหนังสือมาก (น่าจะเรียกงี้นะ) มันจะเป็นตู้ไม้เป้นชั้นๆ อ่ะ เปิดแล้วก็เป็นพวกบัตรที่เขียนรายละเอียดหนังสือไว้ คือเปิดชั้นเล่นและไล่ดูบัตรมันส์มาก ชอบอ่ะ555555

และก่อนกลับบ้านเราได้เจอเพื่อนร่วมรุ่นคนนึง พี่เขาซิ่วมาจากนิติมธ. ไม่แน่ใจว่าขึ้นปี3 หรือจบปี3 แต่พี่เขาอายุ 22 คือรู้จักเพราะไปหารุ่นพี่เพื่อบอกว่าเราจะกลับบ้านด้วยรถเมล์สาย 80 แล้วพี่คนนั้นเขามาถามทางไปบางขุนนนท์พอดี ซึ่งมันผ่านไง เราก็เลยบอกว่านั่งสายเดียวกับเราได้ เลยได้รู้จักและรู้ว่าพี่เขาซิ่วมาจากมธ.


ตอนแรกแอบตกใจนะ คือส่วนตัวถ้าเราเรียนอะไรจนถึงปีสูงแล้วคงไม่กล้าซิ่วออกมา หนึ่งคือเราไม่อยากให้เวลาที่ทุ่มไปเสียเปล่า สองคือเราเสียดายเงินแม่ ถ้าเราจะซิ่วคงเลือกที่จะซิ่วมันไปตั้งแต่จบปีหนึ่งอ่ะ แต่นั่นแหละ เพราะเรายังไม่ไปยืนในจุดนั้นล่ะมั้ง แต่ที่คุยกับพี่เขาคือพี่เขาเรียนแล้วมันเบื่อ มาถึงจุดหนึ่งก็เลือกที่จะซิ่วออกมาแทน และพี่เขาซิ่วไม่ได้บอกพ่อแม่ด้วยนะ อืม... พี่คะ พี่อย่างเท่อ่ะ ชอบจัง5555

จากเริ่มต้นเป็นชุดนักศึกษาจบมาเป็นเรื่องซิ่ว อืม... นี่มันเอนทรี่รวมมิตร #ฮา

เอนทรี่หน้าเจอกันกับการสัมภาษณ์ค่ะ กำลังร่างๆ อยู่ จะเอาความรู้สึกตอนที่สัมภาษณ์เข้ามหาลัยทุกคณะที่เราพอจำได้มาลง ตอนนี้ต้องเค้นสมองก่อน ไม่ได้ลงไว้ในบล็อกเก่าด้วย5555







Tuesday, June 23, 2015

การสอบ III (O-NET)

ก่อนหน้าวันสอบ 1 วัน รุ่นพี่ที่รู้จักบอกว่าข้อสอบโอเน็ตง่ายกว่า 7 วิชา เราก็เห็นด้วยนะ ง่ายกว่าจริง แต่ก็ไม่ได้ง่ายกว่าเยอะอ่ะ

สังคม ข้อสอบง่ายกว่า 7 วิชา ไม่ได้ออกครอบครุมรอบโลก มีบางข้อที่ออกซ้ำกับ 7 วิชาด้วย ที่จำได้คือถามเกี่ยวกับเส้นทางสายไหม ชมพูทวีป และเทียบพ.ศ.เป็นร.ศ. เน้นออกพระพุทธศาสนา แทบไม่เจอศาสนาอื่นเลย สอบเสร็จนี่แทบบรรลุได้

เลข ง่ายกว่าแพท 1 มากกกกกกกกกกกก ใครที่แม่นสูตรคือทำได้แน่ๆ อ่ะ จำได้ว่าห้องสอบนี่เข้าไปนั่งวาดแผนภาพเซตอ่ะ อนุกรมก็ใช้สูตรบวกเลขเอง สูตรไม่ต้องใช้ บวกเองได้ เราเก่ง #เหรอ

แต่อัตนัยก็แน่นอน...ขาวโพลนดั่งหิมะสีขาวเป็นประกายในราตรี ไม่มีรอยเขียนยามที่มอง...

ภาษาอังกฤษ ออกประมาณแกทอิ้งรอบแรกเลยแต่คอนเวอนี่ลดความโหดลงมานิด รีดดิ้งนี่คนละเรื่องกับในแกทอิ้งและ 7 วิชาเลย พาร์ทโกยคะแนนมีเยอะมาก แต่ศัพท์นี่ออกยากกว่าแกทอิ้งนะ หรือเพราะเราไม่เก่งศัพท์ก็ไม่รู้ 55555

ภาษาไทย เราว่ามันออกประมาณแบบฝึกที่อาจารย์ในโรงเรียนชอบให้ทำในคาบเลย และแน่นอนแบบฝึกทำไม่ได้ก็อย่าหวังว่าข้อสอบจะทำได้ orz เทียบกับ 7 วิชาแล้ว เราว่าเราทำของ 7 วิชาได้ง่ายกว่า เพราะโอเน็ตอันนี้มีพวกหลักภาษาเข้ามาเกี่ยวด้วย คือไม่ได้อ่านไป...

วิทย์ สั้นๆ ง่ายๆ สามคำสำหรับการสอบวิชานี้ ทำ-ไม่-ได้ (........) ออกเหี้ยไรเนี่ย กูเคยเรียนด้วยเรอะ!!

สุดท้ายคือ การงาน สุขศึกษาและศิลปะ ส่วนที่ยากสุดสำหรับเราคือศิลปะ ออกมาในแบบที่เราไม่รู้จักทั้งนั้น เน้นถามศิลปะไทยล้วนๆ ไม่มีศิลปะตะวันตกเลย แต่ที่ดนตรีส่วนมากออกดนตรีตะวันตก... =____=!!

สุขศึกษาพอทำได้อยู่นะ ส่วนการงานนี่ทำเขางอกยาวเฟื้อยมาก พึ่งรู้ว่าตัวเองโง่ในเรื่องที่ไม่ควรโง่มาก จำได้แม่นว่ามันมีข้อนึงถามสีท่อสายไฟ นี่มั่นใจมากว่าขาว เพราะจำได้ว่าที่บ้านมันขาว ออกห้องสอบมาจึงรู้ว่ามันเหลืองแต่ที่มันขาวเพราะมันถูกทาสีทับ... #ช็อค

ถึงจะบอกว่ามันง่ายแต่คะแนนก็ใช่ว่าจะดีนะ..........



เช่นเคยที่คะแนนไทยช่วยกอบกู้สมองเรามาก รู้สึกฉลาดไทยขึ้นมาสองวิ /สะบัดปลายผมสิบห้าเซน 

คะแนนคณิตกับวิทย์นี่ลาขาดเหอะ อิผี ได้เกิน30ก็แทบกรี๊ดแหละกับอิสองวิชานี้ ส่วนศิลปะไม่เกินครึ่งเลย ก็ตามนั้นนะ หน้าแบบนี้โง่ศิลปะถึงขั้นได้เกรด 1 ศิลปะมาแล้วนะคะ5555555 (แต่ดันเรียนสายที่เกี่ยวกับศิลปะเต็มๆ #แดกจุด)

สำหรับเรา เราพอใจคะแนนสอบแกทสุดล่ะ555555 /กราบรัว





การสอบ II (7 วิชาสามัญ)

การสอบที่โดนไซโคหนักมากนะว่ายากนะ ยากมาก ยากชิบหาย

คราวนี้เราโดนเด้งไปสอบที่โรงเรียนอื่น ไปสอบที่รงเรียนระยองวิทยาคม จ.ระยองค่ะ อาคาร 2 ชั้น 2 ห้อง 222

เลขสวยเนอะ แต่เราจะบอกว่าข้อสอบไม่สวยเหมือนเลขห้องสอบเลย /ล้มโต๊ะ

อย่างที่บอกว่าเราเลิกอ่านหนังสือทำข้อสอบตั้งแต่หลังสอบแกทแพทครั้งแรกไปแล้ว เพราะงั้นสอบครั้งนี้เราเลยไปดิ่งล้วนๆ ไปแบบสมองกลวงๆ เอ๋อๆ พึ่งบุญเก่าล้วนๆ #เลว

เราลงไป 4 ตัว เลข ไทย สังคมและอิ้ง แต่โดดสอบเลขไป เพราะเราไม่ได้ใช้และขี้เกียจตื่นไปสอบ แอบเสียดายเหมือนกัน เสียตังลงไปทำไมตั้งร้อยนึงฟร่ะ ร้อยนึงนี่ทำอะไรได้หลายอย่างเลยนะ orz

ไทย ออกง่ายนะ ถือว่าข้อสอบโอเคสำหรับคนที่ไม่ได้อ่านอะไรมาเลยแบบเรา พวกหลักภาษา โวหารภาพพจน์พวกนี้ไม่ออกเลย เน้นออกวิเคราะห์บทความอ่ะ การใช้เหตุผลแนวๆ นี้ 

สังคม วิชาที่เหี้ยมากค่ะ พูดเลย5555

เจอข้อสอบแล้วนึกถึงก็อตเซเว่น around the world มากค่ะ อยากจะอัญเชิญอปมาตอบเผื่ออปจะรู้คำตอบบ้าง (งงไหม?... GOT7 เป็นบอยแบนด์เกาหลี มีเพลงญี่ปุ่นชื่อเพลง around the world อยากจิบอกว่าแบมแบมนี่น่ารัก น่าจับแดกมาก ฮืออออออ /จับเข้าปาก เคี้ยวๆ แล้วกลืน)

ข้อไหนง่ายก็ง่ายแบบไม่นึกว่าจะออก ให้เรียงลำดับเหตุการณ์ เทียบพ.ศ.เป็นร.ศ.ความหมายของเศรษฐศาสตร์ ข้อยากก็ยากมหาโหดอ่ะ ออกลึกมาก กฎหมายยกมาเป็นมาตราเลยค่ะ จำนำ จำนองมาหมด

สุดท้ายก็ อังกฤษ ว่าแกทอิ้งยาก มาเจออังกฤษ 7 วิชาสามัญแล้วจะรักแกทอิ้ง เชื่อเรา5555

คอนเวอกับไรต์ติ้งยังพอถูไถ แต่รีดดิ้งนี่โบกมือลาค่ะ ถ้าจำไม่ผิดจะมี กราฟหนึ่งอัน สมัครงานหนึ่งอันและบทความอีก 4 เรื่อง แหม่ คราวแกทอิ้ง 4 บทความกูยังแทบไม่ทัน ไม่ต้องพูดถึงอันนี้ ปั่นมือระวิง ทำแบบอ่านปุ๊บว่าข้อนี้ถูกก็ฝนเลย ใช้เซ้นต์ล้วนๆ อ่ะ เพราะเวลาเรามีน้อยและข้อสอบมันเยอะ มันไม่เหมือนแกทอิ้งที่เอ้อระเหยลอยชายได้


และคะแนนก็สมกับที่ไปสอบ ไทยนี่กู้ชีพมาก กราบตัวเองเลย รู้สึกฉลาดไทยขึ้นมาสองวิ5555 

เพื่อนบอกว่าคะแนน 7 วิชาเราเยอะ เยอะจริงไหมไม่รู้ แต่เราก็ค่อนข้างพอใจ คะแนนออกมาดีกว่าที่คิดนะ




การสอบ I (GAT-PAT)


เมื่อก่อนเราเคยเขียนบล็อกใน exteen อยู่ แต่หยุดไปสักพัก พอจะกลับมาเขียนใหม่เลยว่าจะเปลี่ยนบ้าน เลยมาที่นี่ดีกว่า ทีนี้ก็เลยอยากจะลงช่วงที่ตัวเองเตรียมสอบไว้ด้วย เอาข้อมูลเดิมที่เคยลงในบล็อกเก่ามาปรับปรุงใหม่อีกนิด

น่าจะยาวสักหน่อย เพราะอยากจะอัพทุกการสอบไว้เลย ทั้งแกทแพท 2 รอบ 7วิชาสามัญและโอเน็ต เราคงจะแบ่งพาร์ทไป พาร์ทนี้เราจะพูดถึงการสอบการแกทแพทก่อนเนอะ

GAT-PAT 1/58

แบบสอบรอบแรกไง (ไม่นับการสอบข้อเขียนของมจพ. วิทยาเขตปราจีนบุรีที่ไปสอบก่อนหน้านั้นนะ) ไฟกำลังลุกโชน ย่าส์ กูต้องขยัน เพื่อโบราณคดี เพื่อมหาลัย เราทุ่มไปกับแค่ตัวแกทตัวเดียว หวังให้แตะ 250 เพราะเราใช้แค่ตัวนี้และแบบเจอไซโคมาว่าจะเข้าโบราณคดีแกทไม่ถึง 250 อย่าหวังเลยนะ (แล้วไหนใครว่าคณะนี้เข้ายาก แกท 250 ไม่ใช่ขี้ๆนะเว้ย /ล้มโต๊ะ)  แต่ก็มีลงแพทไปบ้างนะเผื่อใช้ แต่สรุปว่า ไม่ได้ใช้ค่ะ แล้วฉันจะเสียเงินและพลังกายและใจไปสอบทำไมฟร่ะ orz

รอบนี้เราลงทั้งหมด 3 ตัวค่ะ มี GAT PAT1และPAT7.6 (บาลี) 

ก่อนอื่นอยากจะเท้าความถึงสถาพตัวเองก่อนถึงวันสอบค่ะ

พอดีเป็นคนที่มีสกิลกดดันตัวเองสูงมาก ยิ่งแบบใกล้ๆ นะ สติแตก 55555 สัปดาห์ก่อนสอบนั้นเราหยุดเรียนทั้งสัปดาห์เลย ถ้าจำไม่ผิดมีไปโรงเรียนได้สัก 2-3 วัน แต่ไปก็คือโดดทั้งวัน นั่งทำข้อสอบเก่าอยู่ข้างล่างกับเพื่อนในห้อง มีอู้บ้าง อะไรบ้าง ช่วงนั้นสติยังดี สติยังไม่พังเท่าไหร่ 5555

1 วันก่อนสอบ เราอยู่ในสภาพที่รู้สึกว่าตอนนั้นตัวเองคือพังมาก สติคือหลุดมาก อยู่มา 18 ปี เรียนมาไม่เคยสติแตกกับการสอบมากขนาดนี้มาก่อน อย่างที่บอกไปว่าเรากะใช้แกทยื่นเข้าล้วนๆ คณะที่หวังไว้ก็ถือเป็นคณะที่ถือว่ามีอัตราการแข่งขันสูงมากคณะหนึ่งเลย คะแนนเราต้องดีนะ จะได้สู้คนอื่นเขาได้ ตอนนั้นก็โดนไซโคตลอดว่าข้อสอบ 7 วิชาจะทำคะแนนได้ยากกว่าข้อสอบแกทแพทอีก

เป้าหมายเราสูงมากสำหรับตัวเราเอง คนอื่นอาจจะทำคะแนนได้ง่ายๆ แต่สำหรับไม่นะเว้ย ยิ่งทำข้อสอบเก่ายิ่งรู้เลยว่ายาก เพราะงั้นเราเลยยิ่งกดดันตัวเอง พอกดดันก็สติแตกสุดท้าย ข้อสอบเก่าทั้งตัวแกทไทยและแกทอิ้งนี่ผิดระนาว อุบาทว์มาก สุดท้ายเลยหยุดค่ะ หยุดทุกอย่างเลย พักข้อสอบไว้ ไปทำอะไรอย่างอื่นบ้าง สิ่งที่เราทำคือมองหน้าศิลปินที่ตัวเองชอบ ฟังเพลง ดูหนัง ดูซีรีย์ ฯลฯ ทำในสิ่งที่เราทำแล้วไม่เครียดอ่ะ เพราะเรามีความรู้สึกว่า

เฮ้ย มันไม่ไหวแล้ววะ พอเถอะ หยุดดีกว่า ยอมแล้ว กูไม่สู้แล้ว

กลับมาหน้าข้อสอบอีกครั้งในช่วงเย็น ก็ยังมีผิดอยู่ แต่เราก็ทำต่อ ทำต่อไปเรื่อยๆ สลับทำแกทอิ้งบ้าง ยาวยันเที่ยงคืน (มีบ้างที่ช่วงสี่ทุ่ม แอบอู้ไปนั่งดูสงครามนางงาม ช่วงนั้นกำลังติดค่ะ เชียร์ซัมเมอร์สุดใจเลย) ผลที่ได้ก็ไม่ต่างจากเมื่อเช้าค่ะ น้ำตาเกือบไหลแล้ว ทักไลน์หาเพื่อนจะระบาย เพื่อนก็นอนกันหมดแล้ว ไม่มีใครอ่านและตอบสักคน ฟิลตอนนั้นนี่เลวร้ายมาก ทุกคนทิ้งกูววววว สุดท้ายทำอะไรไม่ได้นอกจาก ปลงค่ะ...  ปลงแล้วนอน 55555

เหมือนไม่คิดอะไรเนอะ แต่ตอนนั้นเราคิดแล้วล่ะว่า 250 ไม่ได้ เอา 150 ก็ได้วะ แกทไทยสัก 100 แกทอิ้งสัก 50 คือเกณฑ์ต่ำสุดของเรา ลดลงมาเยอะเนอะ แล้วที่พยายามมาตั้งแต่ต้นคือเหี้ยไรคะ55555

อยากจะแนะนำน้องที่สอบเนอะ แบบพอถึงเวลาที่ตัวเองสติแตกงี้ ซึ่งมันจะมีกันทุกคนป่ะ หรืออินี่เป็นคนเดียว เออ นั่นแหละ ถ้าถึงช่วงนั้น อย่าไปเครียดกับตัวเองนะ ผ่อนคลายเข้าไว้ ไปทำอย่างอื่น อู้บ้าง พักสมองบ้าง ลืมไปซะว่าเรามีสอบ มันจะช่วยได้นะเว้ย ยิ่งแบบพวกติ่งงี้ ไปค่ะ ไปมองหน้า ไปตามข่าวศิลปิน ไปเมนชั่นบ่นใส่ในทวิตเตอร์ (แม้เขาจะไม่รู้เรื่องก็ตาม #ฮา) ให้เราได้ระบายออกงี้ ให้ตัวเองหายเครียด สมองจะได้ปลอดโปร่งขึ้นงี้ ถึงเวลาที่ตัวเองกลับสู่สภาพเดิมที่พร้อมกว่านั้นค่อยกลับมาอ่านหนังสือไรพวกนี้

พูดถึงตอนสอบบ้างเนอะ

ครั้งแรกที่เจอข้อสอบแกทคือมือสั่น... ถือดินสอค้างไว้ 15 นาที ถึงจะเริ่มทำได้ แต่มันก็ยังสั่นและเกร็งไปทั้งตัวจริงๆ
สำหรับเรา แกทไทยรอบนี้ไม่ได้ยากนะ เราทำทวนทั้งหมดสองรอบ อ่านเส้นซ้ำไปมา อ่านรหัสซ้ำไปหา หาจุดอ้างอิงเส้น เยอะแยะไปหมด เพราะกลัวว่าเราจะพลาด คือถ้าพลาด มันจบจริงๆ นะ คิดแบบนี้เลย เพราะคะแนนรอบแรกมันใช้ยื่นรับตรงไง สุดท้ายเราเลยทำแกทเสร็จทันเวลาอย่างเฉียวฉิว เสร็จก่อน 5 นาที ขณะที่ชาวบ้านชาวช่องเขาเสร็จเกือบหมดละ

และมาแกทอิ้ง มือเราเลิกสั่นล่ะ จะสั่นอะไรยาวนานขนาดที่ทำแกทไทยเสร็จยังไม่เลิกคะ ก็นั่งทำสบายกว่าตอนที่ทำแกทไทย สำหรับเราพาร์ทคอนเวอกับศัพท์ปีนี้เราว่าง่ายนะ ถ้าเทียบกับข้อสอบเก่า ศัพท์นี่ออกง่ายจนเราที่ไม่ได้ท่องศัพท์เท่าไหร่ ยังพอทำได้ แต่ที่เลวมากคือรีดดิ้ง โหดร้ายสำหรับเรามาก เปิดข้อสอบเจอนี่อยากจะ WTF ใส่คนออก 4 เรื่องอ่ะ แต่ละเรื่องก็ยาวพอสมควร อ่านก็งง โดยเฉพาะเรื่องจีนนี่แบบว่า โหยยยย อะไรวะเนี่ยยยย

แอเร่อก็พอทำได้ แบบที่อ่านปุ๊บรู้ปั๊บคือข้อ five students กับ rather than ที่เหลือก็แล้วแต่โชคชะตาจะอวยพร 55555

พาร์ทสุดท้ายสำหรับเรานี่เลวร้ายมาก 555555 รู้มาว่าปีนี้จะไม่มีเรียงประโยคก็เฟลนะ เพราะพาร์ทเรียงประโยคสำหรับเราเป็นพาร์ทเก็บคะแนน 12.5 คะแนนเลยนะ มาเจออันที่มาแทนก็เงิบยิ่งกว่า เราว่ามันมึนกว่าเรียงประโยคปกตินะ หรือเพราะเราไม่ชินด้วยแหละมั้ง 55555555  

ทำเสร็จเมื่อยตัวมาก เลยรู้ว่าที่ผ่านมาเรานั่งเกร็งมาตลอด ออกจากห้องสอบถึงขั้นต้องนวดไหล่กันทีเดียว โดยรวมแล้วแกทอิ้งเราพอทำได้ มั่นใจว่าจะได้ 50 คะแนนขึ้น แต่ถึง 100 ไหมไม่แน่ใจจริงๆ ตอนนั้นคือปลง กูปลงยาวตั้งแต่นอนยันสอบเสร็จ เตรียมใจว่าจะสู้ใหม่รอบสองดีกว่า รอบแอดยังรออยู่นะ5555

ส่วนแพท 1 น่ะเหรอ

เด็กผู้ชายที่นั่งสอบข้างเราหล่อดี แต่เหมือนจะมีแฟนแล้ว แอบเห็นเขียนชื่อผู้หญิงที่มือไว้ ตัวใหญ่แบบเต็มมือให้เราเห็นชัดมาก เสียดายแปป #ร้องไห้แรง 55555555555555

ข้อสอบสำหรับเรามันนรกมาก นรกจริงๆ เรียนศิลป์-คำนวณมาไม่ได้ช่วยอะไรเลย นี่ว่าข้อสอบโรงเรียนนรกแล้วนะ เจอแพทไปกูยอมแพ้ มึงเอาเหี้ยไรมาให้กูทำคะ ถาม555555555555

เราดิ่ง 3 แทบทั้งหมด พยายามเฉลี่ยๆ ไปที่ 1 2 4 บ้างเพื่อความสมดุล แหม่ กระจายคะแนนไปบ้าง

ส่วนอัตนัย 15 ข้อ ก็ว่างเปล่า ลาลับ 120 คะแนน 5555555555555555

ออกจากห้องสอบ บอกกับเพื่อน เพื่อนก็บอกว่าถ้าเราไม่ฝนมันจะไม่ตรวจกระดาษคำตอบเรานะ ซึ่งสรุปว่าไม่จริงเว้ย เกือบได้สวัสดี 0 คะแนนแล้วไหมละ 555555

ส่วนแพท 7.6 ก็นรกไม่ต่าง แต่แพทนี้เราไปสอบที่โรงเรียนอื่น และเด็กข้างๆ เราเป็นผู้หญิงด้วย ไม่มีอะไรให้ส่องเลย 5555555

ข้อสอบที่อ่านโจทย์ออกแต่ อ่านช้อยไม่ออกพึ่งเจอเนี่ยแหละ จะมั่วยังมั่วไม่ถูกเลย อย่างแพท 1 นี่ยังจิ้มเลขที่ถูกใจได้ไง แต่บาลีนี่ทำไง ช้อยกูรู้เรื่องแค่ตัวเลขช้อยละจ้า 55555555

ส่วนสนามสอบ วันแรกเราสอบโรงเรียนตัวเองค่ะ ไม่โดนเด้งไปโรงเรียนชาวบ้าน เย้ วัดป่าประดู่ จังหวัดระยองฮิ

บรรยากาศก็โอเคนะ พัดลมเป่าถึง แดดไม่ส่องโดด ประชาสัมพันธ์ก็ประกาศเวลาชัดเจน อย่างแกทก็บอกเวลาเลยครึ่งชั่วโมงแรกแล้ว อีก 5 นาทีหมดเวลาทำข้อสอบ แพท 1 นี่ประกาศเลยครึ่งชั่วโมงแรก เหลืออีก 1 ชั่วโมง แล้วก็ 5 นาทีสุดท้าย

แต่สนามสอบเราก็เป็นหนึ่งสนามสอบที่เก็บข้อสอบก่อนหมดเวลานะ คือใครเสร็จก็ส่งได้เลย แค่ห้ามออก กรรมการคุมสอบบอกว่าจะได้ช่วยตรวจดูที่หัวกระดาษให้ ตรงเซ็นชื่อน่ะค่ะ ว่ามันตรงกับที่เราเซ็นในกระดาษอีกแผ่นไหม

มันเคยมีกระทู้หนึ่งในเด็กดี ตั้งว่ากดดันเพราะสถานการณ์แบบนี้ สำหรับตัวเรา เราไม่กดดันนะ สบายๆ มากกว่า เพราะไม่ได้คิดเร่งตัวเองด้วยมั้ง แพท 1 ก็ส่งกระดาษคำตอบตอนหมดชั่วโมงแรกเหมือนกัน

เราว่าข้อดีของสนามสอบเรา มีแค่ช่วงสอบบ่ายเนี่ยแหละ ข้อดีของที่นั่งเลย 5555555

ทำแพท1 เสร็จ ถ้าไม่นอนก็แอบเหล่ผู้ชายข้างๆ 555555555555555555555 #เลว

ส่วนแพท 7.6 เราไปสอบที่โรงเรียนอื่น ระยองวิทยาคม โรงเรียนประจำจังหวัดจ้า

ที่นั่งก็โอเค อยู่เกือบกลางค่อนไปหลังห้องเล็กน้อย ที่ไม่โอเคคือเสียงคนประกาศ ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ เคยได้ยินแต่เสียงประกาศโรงเรียนตัวเองไง ไปถามเพื่อนคนอื่นก็เห็นด้วยนะ โอเค แสดงว่าไม่ได้แปลกคนเดียวละ 555555

เรายังจำวันที่เรารู้คะแนนแกทแพทครั้งแรกได้เลย 25 ธันวาคม วันคริสต์มาสอีฟ

ประหนึ่งซาตานซานต้ามาไวก่อนเวลาปาของขวัญอัดหน้าเลยค่ะ

ตอนที่รู้จากทวิตเตอร์ว่าสทศ.ปล่อยคะแนนแล้วนะ (สักประมาณสี่ทุ่มกว่าๆ ได้) มือโคตรสั่น ทีวีก็เปิด True4u รายการ Super Junior TV Special เสียงเพลง MAMACITA ดังอยู่เลย แหม่ กูกำลังฟินกับหน้าผู้ชาย เจอของขวัญจากซานต้าแบบไม่รู้ตัวเฉย

แต่เข้าเว็บปุ้บ...

เว็บล่ม

-______-!!!


เออ โอเค เราโอเค เราเข้าใจ รออีกห้าทุ่ม รีเฟรช 

แม่งเข้าได้แล้วว่ะค่ะ แต่คือคนดูยังไม่พร้อมว่ะค่ะ /พ่นไฟ

แต่สุดท้ายคนเราก็ต้องยอมรับความจริง และเข้าไปดูคะแนนของตัวเอง

คะแนนสอบแกทแพทรอบแรกเราก็นี่...



แกทได้ดีกว่าที่คาด แต่ไม่ถึง 250 อยู่ดี ฟิลนั้นนี่โคตรเจ็บใจ โกรธและโมโหตัวเอง อยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออกมา ได้น้อยกว่านี้ยังไม่เจ็บใจเท่าที่รู้ว่าถ้าตัวเองถูกแกทอิ้งเพิ่มอีกข้อก็ได้มา 2.5 คะแนน รวมแล้วแกทจะได้ 250 อยู่ดี แต่ก็ทำไม่ได้...

ต้องไปนั่งมองหน้าเอสเจที่ให้สัมภาษณ์เรื่องคอนหกหน้าทีวีเยียวยาตัวเองอ่ะ ถึงขั้นมองเอสเจแล้วพูดในใจเลยว่า ทำไมทำไม่ได้พี่ แค่ข้อเดียวเองนะ

แล้วทำไมแค่ข้อเดียวถึงทำไม่ได้?

มันทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทั้งเจ็บใจเลย

เราเข้าใจคนที่ได้คะแนนเยอะแล้วบอกว่าตัวเองได้น้อยนะ

ไม่ได้บอกว่าคะแนนตัวเองน้อย คะแนนไม่ได้น้อย แต่มันไม่ถึงกับที่เราต้องการมันก็เลยถือว่าน้อย... แค่นั้นเอง บางทีคณะที่เขาอยากเรียนมันมีคนคะแนนเยอะกว่าเขา คะแนนมันสูงมากนะ คะแนนของเขาที่ถูกมองว่าสูงแล้วมันอาจจะเทียบคนอื่นไม่ได้เลยนะ...

ส่วน GAT-PAT 2/58

คะแนนรอบนี้เป็นรอบที่เราไม่หวังอะไรทั้งนั้น เพราะคะแนนมันออกมาหลังจากประกาศคนติดรับตรงมศว ซึ่งตอนนั้นเราติดแล้ว ตั้งใจว่าจะเอามศวเนี่ยแหละ ไม่ไปแอด คะแนนไม่ได้ใช้แน่ แล้วยิ่งหลังจากที่จบช่วงแกทแพทรอบแรกไปแล้ว ไฟเรามอดค่ะ มอดแบบจุดไม่ติด เจอข้อสอบน็อค อนุภาพรุนแรงมาก 5555 แบบขี้เกียจอ่ะ รู้ว่าต้องใช้คะแนนแต่เราก็ไม่ขยันอ่ะ ทำตัวแย่มากๆ /ดิ่งเหว

เพราะงั้นอยากบอกน้องๆ ว่า ช่วงก่อนสอบแกทรอบแรกเป้นช่วงที่เราจะมีไฟมากที่สุดแล้ว เก็บเกี่ยวให้เยอะๆ นะ พอไปเจอข้อสอบแกทแพท กลับมาจะน็อค ไฟมอดแบบนี่ 555555

และเพราะมั่นใจว่าคะแนนไม่ใช้แน่ ตอนสอบแกทรอบนี้เราเลยชิวมาก ทำแบบชิวสุดๆ อ่ะ แกทไทยนี่ทำเสร็จก็หลับเลย ไม่ทวน แกทอิ้งนี่แทบจะทำไปหลับไป รู้สึกเหมือนข้อสอบมียาสลบรมไว้ ง่วงมาก

แต่แกทไทยรอบสองนี่ยากขึ้นจริง ยากแบบเราทำไปชะงักไปอ่ะ ไม่มั่นใจเท่ากับที่ทำรอบแรก ส่วนแกทอิ้งว่ารอบนี้ก็พอๆ กับรอบแรก

และที่น่าเจ็บใจคือ... เราหวังคะแนนแกท 250 ใช่ไหม รอบแรกที่โคตรตั้งใจกับแกทอิ้ง ขาดอีก 2.5 คะแนนจะถึง 100

 แล้วดูคะแนนรอบนี้



WTHHHHHHHHHHHHHHHHHHH !!


สทศ. ควรมีการเปิดแยกคะแนนแกทไทยและอิ้งออกจากกันอย่างชัดเจน เราจะได้ทำคะแนนแกทได้ 250 อย่างที่หวังถึงจะไม่ใช้คะแนนก็เถอะ ฮือออออออ /คร่ำครวญ 

จบเหอะ.... พาร์ทหน้าเจอกับเจ็ดวิชาสามัญนะฮับบบบ