การเข้ามหาลัยของเด็กม.6
นี่คือนรกแบบหนึ่งในชีวิตก็ว่าได้
ไหนจะต้องไปเรียนเพื่อเอาการบ้านกองเท่าภูเขากลัยมาทำ
ไหนจะกิจกรรมในโรงเรียนที่ต้องร่วม ยังต้องเฉียดเวลาอ่านหนังสือ ทำข้อสอบเก่าๆ
เพื่อผจญกับข้อสอบที่เหมือนผู้หญิงวัยทองขึ้นๆ ลงๆ ไม่รู้ว่าจะออกมาแบบไหน
และเมื่อผ่านรอบข้อเขียนของมหาลัยได้แล้ว
ยังต้องมาจิตตกกับการสัมภาษณ์ที่ไม่รู้ว่าจะเป็นไง
แม้รุ่นพี่จะบอกว่าสัมไม่ยากก็เถอะ แต่คือฟิลนั้นยากไม่ยากไม่รู้แต่หนูจิตตกไปแล้วค่ะพี่ขา
มานั่งนึกดู.... กูผ่านมันมาได้ไงวะ (.............)
ตัวเราเองจะว่าผ่านสัมภาษณ์เข้ามหาลัยมาเยอะไหมก็ไม่รู้นะ
แต่เราผ่านการสัมภาษณ์มาทั้งหมด 5 ครั้งจาก 5 มหาวิทยาลัย 5 คณะ
ซึ่งแต่ละครั้งก็เรียกได้ว่าไม่เหมือนกันเลยสักครั้ง ความยากง่ายก็ต่างกันไป มีทั้งที่ง่ายจนแบบ...
หะ! นี่เสร็จแล้วเหรอ และก็มีที่ยากจนแบบ... กูตกแน่
กูตกสัมแน่ๆ
อย่างที่แรก ราชภัฏสวนดุสิต
ธุรกิจการบิน หัวหิน รับตรงที่แรกของเราเลยค่ะ
เป็นรับตรงที่ไม่ใช่คะแนนการสอบเขียนเลย วัดกันที่ผลสัมภาษณ์ล้วนๆ
และมันสัมภาษณ์เป็นอังกฤษล้วนๆ เลยจ้า เห็นถึงความนรกของมันแล้วไหม....
หน้าอย่างกูนี่ พูดอิ้งฟังอิ้งคล่องมากเลยจย้า
ถามว่ายากมากไหม
ก็ยากพอควรนะ แต่เราไปเจอที่อื่นที่ยากกว่านั้น และเพราะมันเป้นที่แรก
และเราสัมไปเมื่อตั้งแต่ต้นม.6 เทอม 1 แล้ว จนถึงตอนนี้ก็ลืมจนเกือบหมดแล้วจ้า5555
แต่จำได้ลางๆ
ว่ามันเป็นคำถามที่ไม่ยาก และไม่เกี่ยวกับคณะ เกี่ยวกับเรื่องทั่วๆ ไปล้วนๆ เลย
มันจะยากก็ตรงเป้นภาษาอังกฤษนี่แล แถมสัมภาษณ์กับต่างชาตินะ
ไม่ใช่สำเนียงไทยเลยจ้า ฟังยากอิบอ๊ายเลย ;-;
ที่สองก็เป็นเครือราชภัฏเช่นกัน
แต่เป็น ราชภัฏสวนสุนันทา ค่า เป็นรับตรงโครงการเพชรสุนันทา ความสามารถพิเศษทางวิชาการ
วัดกันที่สอบสัมภาษณ์ล้วนๆ เช่นกันจ้า เราไปสัมคณะวิทยาการจัดการ
สาขาวารสารสนเทศ
ตอนไปสัมคือทุกคนในพอร์ตหมดจ้า
แต่อินี่ไปตัวเปล่ามาก และเอ๋อมากเช่นกัน ไม่รู้แม้กระทั่งชื่อประจำม.อ่ะ
ห้องสัมจะเป็นห้องใหญ่ที่รวม
เราสัมภาษณ์ร่วมกับอีกสองสาขา ซึ่งอย่าถามนะ ลืมแล้วแล้วสาขาไหน
โต๊ะสัมก็จะอยู่ห่างจากโต๊ะที่นั่งรอสัมไม่มากนัก
เรียกได้ว่าพูดอะไรคือได้ยินทั้งห้องอ่ะ แล้วอินี่ก็สัมคนแรกด้วยจ้า เอ๋อไม่พอ
ไม่ทันได้เตรียมใจกูก็โดนเรียกสัมแล้วจ้า พ่องเถอะ #อีโมน้ำตาไหล
คำถามก็จะเป็นพวกเกี่ยวกับคณะ
เราจำไม่หมดนะ จำได้คร่าวๆ ก็มี
- แนะนำตัว
- ทำไมถึงอยากเรียน
(นี่ตอแหลมากค่ะว่าชอบอ่าน เลยสนใจคณะนี้ แต่โดนสวนมาว่าคณะนี้เรียนเป็นนักข่าวนะ
ชอบอ่านนี่ไม่พอหรอก....)
- รู้ไหมเรียนอะไร
(ตอบไปว่าทราบค่ะ ดูหลักสูตรมาเลยสนใจ แต่ความจริงคือไม่ได้ดูอะไรเลย)
- เรียนอะไรบ้าง
ยกตัวอย่างมา (คำถามนี้นี่ต่อยอดจากคำถามบนค่ะ ซึ่งข้างบนเราตอแหล
อย่าหวังว่าคำถามนี้จะตอบได้ เพราะงั้นเลยได้แต่ยิ้มสยามและบอกว่า อ๋อ
หนูลืมค่ะ....)
- สีประจำม.คือสีอะไร
(นี่ก็ยิ้มสยามและบอกว่าจำไม่ได้ค่ะ ออกห้องมาถามพี่เลยรู้ว่าเป็นสีชมพู)
- ระหว่างเดินมาเห็นอะไรบ้าง
(ไม่ได้มองเลยค่า เลยตอแหลว่า อ๋อ หนูตื่นเต้นมากค่ะ เลยไม่ได้มองอะไรเลย)
- ชอบนักข่าวคนไหน
(ตอบไปว่าสรยุทธค่ะ ฟิลนั้นคือนึกใครไม่ออกเลยลุงยุทธค่ะ เพราะวันสัมคือวันที่ 9
ก่อนหน้าเอสเจจะมา แล้วเราจำได้ว่าวันพรุ่งนี้เอสเจมีไปหาลุงยุทธ เลยตอบลุงยุทธไป...
#อ.สัมเห็นความจริงต้องคิดใหม่แน่เลยว่าตอนนั้นไม่น่าให้อินี่ผ่าน)
- ช่วงนี้มีข่าวอะไรบ้าง
(ตอนนั้นข่าวเรือล่มนี่ดังมาก รู้จากทวิตเลยตอบข่าวนี้ไปค่า)
- แล้วข่าวในไทยตอนนี้ละ
(คำถามต่อยอดเช่นกันค่า เพราะอันบนข่าวเรือล่มเป็นข่าวนอก
แต่เราจำไม่ได้ละว่าตอบข่าวอะไรไป)
แล้วก็มีให้อ่านและแปลภาษาอังกฤษ
อ่านบทความไทยด้วย เพราะเป็นนักข่าวต้องมีการรายงานข่าวด้วยงี้
(โดนติงมาด้วยว่าเราออกเสียงไม่ชัด พูดเร็วแล้วลิ้นพัน ให้แก้ไขด้วย orz)
แล้วก็ที่ที่ 3 คือ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
คณะวัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยงเชิงนิเวศ
สาขานวัตกรรมการจัดการการท่องเที่ยวแบบบูรณาการ ชื่อยาวเนอะ55555
เป็นคณะที่เราตั้งใจไว้แล้วว่าจะเรียน ถ้าไม่ติดรับตรงโบราณคดี
แต่ว่าติดโบราณคดีเลยไม่ได้เรียน5555
เรายกให้ที่นี่เป็นคณะที่สัมยากที่สุดเลยค่ะ
สัมนานและเยอะมาก ออกห้องมานี่แทบกรี๊ดอ่ะ มันแบ่งห้องสัมเป็น 4 ห้อง
เราเป็นคนสัมคนที่ 2 ของห้องสัมเรา
ก่อนหน้านั้นนั่งรอคนสัมคนแรกอยู่หน้าห้องนานมาก
ก่อนหน้านั้นขอพูดถึงความประทับใจก่อน
คืออย่างที่บอกไว้ว่าตอนแรกว่าเราตั้งใจจะเลือกที่นี้แล้ว ตอนนั้นคือเราไม่มั่นใจว่าตัวเองจะติดรับตรงโบราณคดีไง
ตั้งใจไว้ว่าถ้าไม่ติดก็จะไม่แอดแล้วเอาที่นี่แทน เพราะคือประทับกับทั้งบรรยากาศม.
คณะนี้เรียนที่อโศกตลอด 4 ปีเลย ม.ใหญ่และกว้างมาก (ตอนเดินหาตึกสัมครั้งแรกนี่งงมาก
เปิดโทรศัพท์ดูแผนที่ตลอดเลย มันกว้างจริงๆ) รุ่นพี่ (รุ่นพี่ที่นี่น่ารักดีนะ
คือประทับใจพี่ผู้ชายคนนึงสุดละ ตอนที่เรารอสัมอยู่หน้าห้องคือตื่นเต้นมาก
พี่เขามาให้กำลังใจมาจับมืองี้ พี่คนอื่นก็มีมาคุยด้วยไรงี้ ชอบ ♥) แล้วก็เพื่อน
(ก่อนหน้าที่จะถึงวันสัม มีการตั้งกลุ่มไลน์กัน ได้พูดคุยกัน
พอถึงเวลาจริงได้เจอกันทุกคนก็น่ารักมากจริงๆ นะ
ยังพอมีบางคนที่ถึงตอนนี้เราก็ยังได้คุยอยู่) เสียอยู่อย่างเดียว
เราอยากเรียนโบราณคดีมากกว่าท่องเที่ยว5555
รับตรงมศวปีเรานี่เป็นปีแรกที่มีการใช้แบบยื่นคะแนนแทนการสอบเองของมหาลัย
วันสัมก็เลยมีการจัดสอบเองของคณะด้วย และคณะเราก็เป็นหนึ่งในนั้น
ซึ่งเราบอกได้เลยว่าแม่งโคตรยาก /พ่นไฟ ความรู้เกี่ยวการท่องเที่ยวล้วนๆ เลยจ้า (แน่ดิ
ก็มันเป็นสาขาการท่องเที่ยวนี่หว่า) นี่มั่นใจน้อยมาก
ที่พอจะจำได้ก็คือถามนโยบายการท่องเที่ยวของปีนี้ ให้คำขวัญแล้วก็ถามชื่อจังหวัด
ให้ประเพณีมาก็ถามว่าของจังหวัดอะไรแบบนี้ เราจำได้ไม่หมดนะ ลืมเกือบหมดแล้ว5555
ส่วนสัมภาษณ์
ที่โดนถามก็ประมาณนี้
- แนะนำตัว
- ทำไมถึงอยากเรียน
(เราก้บอกไปว่าเราอยากลองทำทัวร์เอง มันน่าสนใจที่ได้ทำทัวร์
ได้เห็นทัวร์ที่เราทำเขามีความสุขและสนุกกับที่ที่เราเลือกที่จะให้เขาไปงี้ –
ดูนางงาม5555)
- คิดยังไงกับข่าวที่ชาวจีนเข้ามาทำพฤติกรรมไม่ดีในไทย
(ช่วงนั้นข่าวนี้กำลังมาแรง
เราก็ตอบไปประมาณมารยาททางสังคมของทุกประเทศไม่เหมือนกัน
แต่ถ้าเขาเข้ามาในประเทศเราก็ต้องเคารพและเข้าใจว่าการกระทำบางอย่างเขามันไม่ดีในประเทศเรา
เช่นเดียวกับคนไทยที่เวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็ต้องยอมรับเช่นนั้น)
- อยู่ระยอง
มีสถานที่ไหนบ้างที่นักท่องเที่ยวแล้วส่งผลยังไง
(แน่นอนว่าระยองมีชื่อเสียงที่เกาะเสม็ด เสร็จทุกราย เราเลยตอบเกาะเสม็ดไปค่า
ส่งผลให้เงินไหลเวียน สร้างชื่อเสียงให้ประเทศงี้)
- แล้วไม่มีผลเสียบ้างเหรอ
(โดนเลยค่า ตอบแต่ผลดีไปโดนถามผลเสียเลย555
คิดอย่างหนักเลยค่ะสุดท้ายเลยตอบไปว่าส่งผลเสียต่อธรรมชาติไป เพราะคนเที่ยวเยอะ
ไม่ค่อยดูแลกันเลยทรุดโทรมลงเรื่อยๆ)
- มีดูพอร์ตเราด้วย
กี๊ดดดด ที่แรกเลยค่ะที่เอาพอร์ตไป ดีใจที่อาจารย์ไม่เมินพอร์ตเรา5555
ดูแล้วก็ถามถึงกิจกรรมที่เราทำ แบบให้เราอธิบายงี้ เราก็พูดไปว่ามีไรบ้าง
แต่ที่นี้พอร์ตเราลงกิจกรรมไปไม่ตครบ ก็เลยใช้ตอนนี้กล่าวเสริมไปให้ครบด้วยเลย555
- ดูทรานสคริป
เจอโดนถามเรื่อนภาษาจีนไปด้วยแหละ แบบเรางี้เรียนจีนมา 5 ปีเต็มๆ จากหลักสูตรโรงเรียน
ได้เกรด 4 ด้วยค่า แลดูน่าภูมิใจ แต่เปล่าเลย สมองกูกลวงมาก ไหนภาษาจีนกุวะ5555 ตอนที่อาจารย์พูดภถามว่าเรียนจีนมาด้วยเหรอ
เราเลยต้องรีบบอกว่า อ๋อ ใช่ค่ะ แต่พูดไม่ได้นะคะ ได้แค่อ่านพินอินเล็กๆ น้อยๆ
โดนหยอกกลับมาด้วยว่ารีบเชียวนะ กลัวโดนให้พูดเหรอ555555
- ถามเรื่องตัวเรา
พวกบ้านอยู่ไหน เรียนท่องเที่ยวพ่อแม่ว่าไง ข้อดีข้อเสียของเรา รวมๆ
ก็เกี่ยวกับตัวเราล้วนๆ ไม่ยากค่า
- อ่านบทความอังกฤษ
แล้วสรุปให้ฟังค่ะ เราโดนเรื่องยักษ์หน้าวัดพระแก้วค่ะ ไม่ยากนะ เป็นบทความสั้นๆ
รวมๆ ก็ประมาณนี้
ยังมีนะ แต่เราจำไม่ค่อยได้แล้ว555 เราโชคดีที่ไม่โดนถามความรู้เจาะจงเกี่ยวกับการท่องเที่ยว
อย่างเพื่อนคนนึงมีโดนถามว่า inbound คืออะไร
มันคือนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยค่า
อีกอันก็บอกไปว่าอยากเป็นไกด์ เลยโดนให้แนะนำจังหวัดตัวเอง
แบบสมมติว่าตัวเองเป็นไกด์ น่ากลัวมาก โชคดีที่เราตอบไปว่าอยากเป็นคนทำทัวร์
*โน้ตเล็กๆ เป็นความรู้เสริม คนทำทัวร์ที่เราหมายถึงคือการทำงานเป็นทราเวลเอเจนซี่หรือ
Land Operator ค่ะ ให้บริการกับลูกค้าที่เป็นบริษัททัวร์
คอยติดต่อพวกสถานที่และโรงแรมให้แก่บริษัททัวร์ ซึ่งมันจะแบ่งเป็นแผนกๆ ไป
ถ้าสนใจลองหารายละเอียดเพิ่มเติมได้นะ*
ที่ต่อมาคือ รับตรง 12 จังหวัดรอบแรก มหาวิทยาลัยบูรพา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
เอกประวัติศาสตร์ เป็นที่ที่เราชอบการสัมภาษณ์ที่สุดแล้วค่ะ สัม 5
นาทีเสร็จ ตูดไม่ทันหายร้อนจบแล้วจ้า พอร์ตก็ไม่ดู
แล้วกูจะเสียตังค่าปริ้นพอร์ตใหม่ไปทำไมต้องสี่ห้าร้อยคะ #อีโมยิ้มทั้งน้ำตา
รับตรงม.บู
มันเลือกได้ 4 อันดับ เอกประวัติศาสตร์เราเลือกเป็นอันดับ 2
ส่วนอันดับอื่นเราเลือกเป็นสายภาษาทั้งหมด เกาหลีเป็นอันดับหนึ่ง
ตอนสัมภาษณ์เลยโดนถามเรื่องนี้ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับว่าเราสามารถเลือกโทเกาหลีได้นะ
ถ้ามาเรียนนี่ และมีคำถามเกี่ยวกับตัวเราเล็กน้อยแล้วก็จบค่า...
คือนั่ง ไหว้
วางพอร์ตและเอกสาร อาจารย์สัมดูใบสมัครรับตรงเรา ถามเรื่องอันดับ
แนะนำว่าเลือกโทเกาหลีได้ ถามเรื่องบ้านเล็กน้อย แล้วให้ไป อ๋อ
อาจารย์สัมพึ่งจะมาถามชื่อและเลขที่เราก่อนที่เราจะลุกไปเนี่ยแหละค่ะ
#อีโมยิ้มทั้งน้ำตา
ที่สุดท้ายคือนี่ค่า คณะโบราณคดี เอกประวัติศาสตร์ศิลปะ มหาวิทยาลัยศิลปากร กี๊ดดดดดดด /รัวมือ
เป็นคณะที่รับสมัครนานโคตร
กว่าจะประกาศชื่อคนมีสิทธิ์สัม กูนี่ปลงแล้วจ้า คะแนนคงไม่สู้
เตรียมจะไปเรียนมศวแล้วจ้า แต่จู่ๆ ก็มีชื่อสัมเฉย นี่แทบจุดพลุฉลองค่า ฮือออออออ
/กราบรัว
วันสัมนี่ไปถึงตั้งแต่หกโมงอ่ะค่ะ
แบบชีวิตนี้ไม่เคยไปวิทยาเขตวังท่าพระเลย ไม่แม้แต่จะผ่านเลยจ้า พอไปถึงหน้าม.ตอนหกโมงแล้วเดินเข้าไปนี่ชะงักมาก
แบบนึกนะ หน้าคณะไม่มีใครเลย ฟ้าตอนหกโมงก็ไม่สว่างดี เดินไปนี่ลดพัดปลิว
แล้วตึกก็จะขลังๆ หน่อย คือแบบ... น่ากลัวเอี้ยเลย หนูกลัวผีนะคะ ฮืออออออ สาบานว่ามาเรียนจะไม่อยู่ที่ม.จนดึกหรือมาเช้าเกินคนเดียวแน่ๆค่ะ
TwwwwwwwwwwwwwT
สัมภาษณ์ที่นี่ก็ไม่ยากนะ
ถึงขั้นปานกลางแต่สั่นมากค่า สั่นพอๆ กับตอนสัมภาษณ์มศวเลย ฮือออ แต่เราโชคดีตรงที่ไม่โดนถามพวกโบราณสถานนะ
ฮ่า ถ้าโดนต้องตอบไม่ได้แน่เลย5555
รวมๆ
แล้วเราโดนแต่คำถามเกี่ยวกับตัวเองทั้งนั้น อย่างคำถามที่เราว่ายากที่สุดก็คงเป็นว่าประวัติศาสตร์ศิลปะคืออะไรและมีประโยชน์ยังไงสำหรับเรา
แล้วก็มีพูดถึงเรื่องวิชาโทเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็จบค่า
สรุปแล้ว...
ถ้าถามเราว่าสัมภาษณ์ยากไหม
ให้ตอบว่าไม่ยากก็คงตอแหลเกินไป เพราะส่วนตัวเราเองกลัวทุกครั้งที่จะโดนสัมภาษณ์
#ฮา
ทริคง่ายๆ
ใช้สำหรับสัมภาษณ์ของเรานี่ไม่ยากเลยค่ะ เราใช้วิธีพูดเยอะๆ ชวนคุยมันไปเถอะ
แต่ให้มันเกี่ยวกับคำถามที่ถูกถามนะ มันจะช่วยให้เราหายตื่นเต้นได้ดีนะ
แต่แบบบางทีก็เพลินเกิน พูดจะลามไปเรื่องอื่น5555 orz
เรื่องพอร์ต
เราว่าเอาไปด้วยก็ดีนะ จะดูหรือไม่ดูค่อยว่ากันอีกทีเถอะ อย่างน้อยยังอุ่นใจ
เหมือนเรามีโล่ปกป้องตัวเองการเข้าสมรภูมิรบที่เรียกกว่าการสัมภาษณ์ได้ดีเลยล่ะ5555
ส่วนตัวเรามีพอร์ต 3 แบบ แบบแรกไม่ได้ใช้เพราะหน้ามันเยอะไป ไม่มีตังปริ้น orz แบบสองเราใช้สัมภาษณ์มศว หน้าปกนี่ทำโดยเฉพาะเลย
ส่วนแบบสามคือทำไปสัมม.บู และลามมาโบราณคดีเลย เพราะไม่มีเวลาทำใหม่และปริ้นใหม่
ช่างกระชั้นชิดนัก orz
ใครว่ายิ่งสัมภาษณ์เยอะ
ยิ่งไม่กลัวสัมภาษณ์นี่เถียงนะ เถียงสุดใจเลยค่า
จะสัมภาษณ์กี่ครั้งทุกที่นี่ก็น่ากลัวเหมือนเราโดนสัมภาษณ์ครั้งแรกเลย ฮืออออ
#อีโมน้ำตาไหล